การพัฒนาการท่องเที่ยวสวนพฤกษศาสตร์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ กรณีศึกษา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ผู้แต่ง

  • ชวรินทร์ สุดสวาท วิทยาลัยพหุวิทยาการและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • นันทวรรณ ม่วงใหญ่ วิทยาลัยพหุวิทยาการและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • สมยศ โอ่งเคลือบ วิทยาลัยพหุวิทยาการและสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ, การพัฒนา, แหล่งเรียนรู้

บทคัดย่อ

งานวิจัยเรื่องนี้มุ่งเน้นศึกษาการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติภายในพื้นที่ของสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. ศึกษาศักยภาพความเป็นแหล่งเรียนรู้ของสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม  จ.เชียงใหม่ 2. เพื่อเสนอแนะแนวทางในการพัฒนาทางการท่องเที่ยวสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Method) เน้นศึกษาบริบทพื้นที่ของสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ โดยกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่ใช้ดำเนินการได้แก่ กลุ่มผู้บริหารจำนวน 4 ท่าน และพนักงานระดับบริการทั่วไปอีก 1 ท่าน ผู้วิจัยได้เลือกใช้เครื่องมือ 2 อย่างในงานวิจัยชิ้นนี้ 1) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง เพื่อหา จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคในปัจจุบันของสวนฯ โดยผู้วิจัยได้จัดทำแบบสัมภาษณ์ที่ คลอบคลุมขอบเขตของวัตถุประสงค์การวิจัย จากนั้นจึงนำแบบสัมภาษณ์กลับมาปรับปรุงตามคำแนะนำอีกครั้ง และ 2) การสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วม

         ผลการวิจัยพบว่า สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ มีศักยภาพสูงในการเป็นแหล่งเรียนรู้เชิงนิเวศ ด้วยจุดแข็งด้านความหลากหลายทางชีวภาพและพื้นที่กว้างขวาง อย่างไรก็ตาม ศักยภาพดังกล่าวถูกจำกัดด้วยข้อจำกัดด้านการเข้าถึง สิ่งอำนวยความสะดวก บุคลากร และกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการศึกษาด้วยตนเองเป็นหลัก เพื่อพัฒนาสวนฯ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและดึงดูดนักท่องเที่ยว งานวิจัยเสนอแนะแนวทางที่จำเป็นเร่งด่วน ได้แก่ การพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการให้ครอบคลุม การยกระดับคุณภาพบุคลากร การปรับปรุงกลยุทธ์การส่งเสริมการขายและการสื่อสาร และการสร้างเอกลักษณ์ของสินค้าที่ระลึก การดำเนินการตามแนวทางเหล่านี้อย่างจริงจังจะช่วยเสริมสร้างให้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการเรียนรู้ที่ยั่งยืนและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

เอกสารอ้างอิง

จรินทร์ ฟักประไพ และคณะ. (2022). ศึกษา และประเมินศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ป่าโคกข่าว อำเภอชื่นชม จังหวัดมหาสารคาม. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์, 16(2), 20-32.

ณัฐริน รัตนัง และ ดร.จารุวรรณ แดงบุบผา, (2561). คุณลักษณะและรูปแบบการสื่อความหมายที่ส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ ในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อการเรียนรู้ทางพฤกษศาสตร์ กรณีศึกษา สวนพฤกษศาสตร์. การประชุมวิชาการเสนอผลงานวิจัย ระดับชาติและนานาชาติ ครั้งที่ 9, 611-622

ดรรชนี เอมพันธุ์, และคณะ. (2547). คู่มือการจำแนกเขตท่องเที่ยวเชิงนิเวศ.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะวนศาสตร์.

รัฐนันท์ พงศ์วิริทธิ์ธร. (2558). แนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงเกษตรเพื่อความยั่งยืน โครงการหลวงปางดะ. Asian Health, Science and Technology Reports, 21(1), 107-123.

สุมน อมรวิวัฒน์. (2544). การปฏิรูปการเรียนรู้ในโรงเรียนนำร่อง. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

องค์การสวนพฤกษศาสตร์. (2566). สวนพฤกษศาสตร์. สืบค้นเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2566. จาก https://botanic.qsbg.org

Kotler, Philip. (1997). Marketing Management: Analysis, Planning, Implementation and Control. 5 th ed. Englewood Cliffs, NJ: Prentice Hall.

Mondino, E., & Beery, T. (2018). Ecotourism as a Learning Tool for Sustainable Development:

Moscardo, G. (2010). The Shaping of Tourist Experience: The Importance of Stories and Themes. The Tourism and Leisure Experience: Consumer and Managerial Perspectives. 43-58.

Smith et al., (2018). Emotion Theories and Adolescent Well-being: Results of an Online Intervention. Emotion, 18(6), 781-788.

Weiler, B., & Black, R. (2015). The Changing Face of the Tour Guide: One-way Communicator toChoreographer to Co-creator of the Tourist Experience. Tourism Recreation Research,40(3), 1-15.

World Tourism Organization (UNWTO). (2002). The British Ecotourism Market. Retrieved on 5 February 2023 from https//haroldgoodwin.info/resources/1223-1.pdf

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-12-02

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิจัย