การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องมัทนะพาธาของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สุราษฎร์ธานี โดยการจัดการเรียนรูปแบบโมเดลซิปปากับการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอนแบบปกติ

ผู้แต่ง

  • กัลยาณีย์ ชูพยัคฆ์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
  • พระมหาพิเชษฐ์ อตฺตานุรกฺขี มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
  • พระจักรพัชร์ จกฺกภทฺโท มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, โมเดลซิปปา

บทคัดย่อ

การวิจัย เรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องมัทนะพาธาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สุราษฎร์ธานี โดยการจัดการเรียนรูปแบบโมเดลซิปปาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีเรื่อง บทละครพูดคำฉันท์ เรื่องมัทนะพาธาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างวิธีการสอนแบบโมเดลซิปปากับวิธีสอนปกติ 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีเรื่อง เรื่อง บทละครพูดคำฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างก่อนและหลังการเรียนโดยวิธีการสอนแบบโมเดลซิปปา 3. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีบทละครพูดคำฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างก่อนและหลังการเรียนด้วยวิธีการสอนปกติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ สุราษฎร์ธานี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 20 คน ซึ่งได้มาซึ่งได้มาจากการเลือกสุ่มแบบตามความสะดวก (Convenience Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องมัทนะพาธาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 แผนการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียนวรรณคดีเรื่อง บทละครพูดคำฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีลักษณะเป็นปรนัย 4 ตัวเลือก แบบทดสอบแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดละ 30 ข้อ วัดผลก่อนเรียนและหลังเรียน

ผลการวิจัยพบว่า 1. เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการก่อนเรียนกับหลังเรียนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดี เรื่องบทละครพูดคำฉันท์ เรื่องมัทนะพาธา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างก่อนและหลังการเรียน ด้วยวิธีการสอนปกติ มีคะแนนเฉลี่ยหลัง เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่า t เท่ากับ 8.81 2. เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการก่อนเรียนกับหลังเรียน ของวรรณคดี เรื่อง บทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างก่อนและหลังการเรียน โดยวิธีการสอนแบบโมเดลซิปปา มีคะแนนเฉลี่ยหลัง เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่า t เท่ากับ 22.86 3. เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการก่อนเรียนกับหลังเรียนของวรรณคดีเรื่องบทละครพูดคำฉันท์ เรื่อง มัทนะพาธา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างวิธีการสอนแบบโมเดลซิปปากับวิธีสอนปกติ มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่า t เท่ากับ 16.53

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-08-29