การพัฒนาผลสัมฤทธิ์วิชาประวัติศาสตร์ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนขอนแก่นพัฒนศึกษา

ผู้แต่ง

  • วิศวชิต พระโคตร มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
  • วสันต์ เกษงาม มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย
  • พรทิพา เกตุนันท์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย

คำสำคัญ:

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์, การจัดการเรียนรู้แบบความคิดสร้างสรรค์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาผลสัมฤทธิ์วิชาประวัติศาสตร์ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยวัตถุประสงค์คือ 1) การพัฒนาผลสัมฤทธิ์วิชาประวัติศาสตร์ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มเป้าหมาย คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 31 คน โรงเรียนขอนแก่นพัฒนศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แบบเลือกตอบ ชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ โดยใช้เป็นแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 3) แบบวัดความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ t-test และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

          ผลการวิจัยพบว่า 1. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 วิชาประวัติศาสตร์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาประวัติศาสตร์ โดยรูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 31 คน คะแนนก่อนเรียนได้คะแนนเฉลี่ย 8.84 คะแนนหลังเรียนได้คะแนนเฉลี่ย 17.55 เมื่อทดสอบความแตกต่างระหวางค่าเฉลี่ยหลังเรียนและค่าเฉลี่ยก่อนเรียน พบว่าค่าเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนเรียน อยางมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่า ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบความคิดสร้างสรรค์ พบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ภาพรวมมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐาน ในระดับมาก ( ) = 4.35, S.D. = 0.16)

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-06-02