ขบวนการเคลื่อนไหวภายใต้ยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ: กรณีศึกษาขบวนการเคลื่อนไหวภาคประชาชนที่คัดค้านผังเมืองอีอีซี พ.ศ. 2562

ผู้แต่ง

  • วรรธนพร ภัทรธรรมกุล คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

คำสำคัญ:

ขบวนการเคลื่อนไหว, โครงการอีอีซี, ผังเมืองอีอีซี

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาการเกิดขึ้น พัฒนาการ และยุทธวิธีการเคลื่อนไหวของขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน และแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พ.ศ. 2562 และ 2) เพื่อศึกษาข้อจากัดในกระบวนการเคลื่อนไหวภายใต้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ผ่านกรอบแนวคิดทฤษฎีทฤษฎีโครงสร้างโอกาสทางการเมือง (Political Opportunity Structure) และการระดมทรัพยากร (Resources Mobilization Theory: RMT) โดยใช้วิธีการเก็บข้อมูล 3 รูปแบบ คือ 1) การวิจัยเอกสาร 2) การวิจัยภาคสนาม 3) การเก็บข้อมูลสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ผลการศึกษาพบว่า โครงการอีอีซีเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองภายใต้รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งมีการใช้อานาจพิเศษในการดาเนินโครงการอย่างรวดเร็วและปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ทั้งการเวนคืนที่ดินและปัญหาสิ่งแวดล้อม อันถือเป็นเหตุผลที่ทาให้เกิดการรวมกลุ่มเป็นขบวนการเคลื่อนไหวภาคตะวันออก โดยประเด็นที่ยกขึ้นมาต่อต้านคือการ “ยกเลิกผังเมืองอีอีซี” ทั้งนี้ จากการศึกษาพบว่า ถึงแม้การเคลื่อนไหวจะไม่ประสบผลสาเร็จเพราะโครงสร้างโอกาสทางการเมืองที่มีข้อจากัดจากรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่ขบวนการเคลื่อนไหวมีการปรับยุทธศาสตร์เพื่อต่อสู้และต่อรอง จนสามารถสร้างแรงสะเทือนให้กับรัฐบาลดังกล่าวทั้งในพื้นที่สาธารณะ พื้นที่รัฐสภา และพื้นที่ศาลปกครอง

References

เครือข่ายเพื่อนตะวันออก วาระเปลี่ยนตะวันออก. (ม.ป.ป.). อนาคตที่ร่วมกันสร้างสรรค์ ตะวันออกวิถีแห่งความสุข. ค้นเมื่อ 16 มกราคม 2566, จาก https://bit.ly/40C1iDX

เทพนคร วรรณมหาชัย. (2559). ยุทธวิธีของขบวนการเคลื่อนไหวทางสิ่งแวดล้อมในการคัดค้านรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โครงการเขื่อนแม่วงก์. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ประภาส ปิ่นตบแต่ง. (2552). กรอบการวิเคราะห์การเมืองแบบทฤษฎีขบวนการทางสังคม. เชียงใหม่: มูลนิธิไฮน์ริค เบิลล์ สานักงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.

โพสต์ทูเดย์. (2556). ชาวบ้านชุมนุมค้านสร้างท่าเรือแหลมฉบับเฟส 3. ค้นเมื่อ 19 มกราคม 2566, จาก https://bit.ly/3AzF36W

มูลนิธิบูรณะนิเวศ. (ม.ป.ป.). มลพิษที่มาบตาพุด. ค้นเมื่อ 18 มกราคม 2566, จาก https://bit.ly/3NfKwai

ศรัณยุ หมั้นทรัพย์. (2557). เครือข่ายภาคประชาชนภาคตะวันออก : “การเมืองภาคประชาชน” ในสังคมไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต วิทยาลัยสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

เอกพล เสียงดัง. (2550). ผลสะเทือนจากการต่อสู้ของขบวนการคนจนและคนด้อยอานาจในสังคมไทยตั้งแต่ปี 2531–2549. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

EEC Watch. (2562). แถลงการณ์ หยุดผังเมือง EEC. ค้นเมื่อ 15 มกราคม 2566, จาก https://bit.ly/3KCjwA3

iLaws. (2562). "EEC" เขตเศรษฐกิจ "พิเศษ" สาหรับใคร? ค้นเมื่อ 15 มกราคม 2566, จาก https://ilaw.or.th/node/5358

Juan Linz. (2511). Dictators and Dictatorships. in N. M. Ezrow & E. Frantz (Eds.), Dictators and Dictatorships: Understanding Authoritarian Regimes and Their Leaders. New York: The Continuum International Publishing Group.

McCarthy, J. D. & Zald, M. N. (1977). Resource Mobilization and Social Movements: A Partial Theory. The American Journal of Sociology. 82(6), 1212-1241.

The Momentum. (2560). จากอีสเทิร์นซีบอร์ดสู่ ‘EEC’: การพัฒนาที่คนภาคตะวันออกไม่มีสิทธิ์เลือก?. ค้นเมื่อ 16 มกราคม 2566, จาก https://bit.ly/2Q95wlM

The Momentum. (2562). อีอีซีกับการพัฒนาที่ยั่งยืน? : บทเรียนจากมาบตาพุด. ค้นเมื่อ 17 มกราคม 2566, จาก https://bit.ly/41FLT6t

Tilly, C. (1994). Social Movement as Historically Specific Clusters of Political Performances. Berkeley Journal of Sociology, 38, 1-30.

Tilly, C., & Wood, L. J. (2015). Social movements 1768-2012. London: Routledge.

Yin, R. K. (2014). Case Study Research Design and Methods. Los Angeles: SAGE.

เผยแพร่แล้ว

16-08-2023

How to Cite

ภัทรธรรมกุล ว. . (2023). ขบวนการเคลื่อนไหวภายใต้ยุครัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ: กรณีศึกษาขบวนการเคลื่อนไหวภาคประชาชนที่คัดค้านผังเมืองอีอีซี พ.ศ. 2562. วารสารรามคำแหง ฉบับรัฐประศาสนศาสตร์, 6(2), 98–129. สืบค้น จาก https://so16.tci-thaijo.org/index.php/RJPA/article/view/1831