ทักษะที่จำเป็นแห่งอนาคตของนักเรียนระดับปฐมวัยโรงเรียนสาธิต แห่งมหาวิทยาลัยนครพนม พนมพิทยพัฒน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม
คำสำคัญ:
ทักษะการคิดพื้นฐาน, ทักษะที่จำเป็นแห่งอนาคต, การเรียนรู้บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาทักษะที่จำเป็นแห่งอนาคตของนักเรียนระดับปฐมวัย 2) พัฒนาแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะที่จำเป็นแห่งอนาคตของนักเรียนระดับปฐมวัย 3) เปรียบเทียบทักษะการเรียนรู้โดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะที่จำเป็นแห่งอนาคตระหว่างก่อนเรียน และหลังเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนระดับการศึกษาปฐมวัย โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย นครพรมพนมพิทยพัฒน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม จำนวน 35 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นแห่งอนาคตของนักเรียนระดับปฐมวัย 2) แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นแห่งอนาคตของนักเรียนระดับปฐมวัย 3) แบบประเมินการวัดทักษะการคิดพื้นฐาน และ 4)แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (Dependent Samples t-test)
ผลการวิจัยพบว่า ทักษะการคิดพื้นฐานของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ที่พัฒนาขึ้น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เด็กปฐมวัยมีความพึงพอใจต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น อยู่ในระดับมาก ( = 2.78, S.D. = 0.45)
เอกสารอ้างอิง
จงจิต เค้าสิม และ สันติ วิจักขณาลัญฉ์. (2567). ทักษะการคิดเชิงบริหารรากฐานพัฒนาการของเด็กปฐมวัยใน
ศตวรรษที่ 21. Journal of Roi Kaensarn Academi, 9(7),964-980.
ณัฐญา นันทราช. (2563). การพัฒนาทักษะการคิดพื้นฐานของเด็กปฐมวัย โดยการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้
แบบไฮสโคปด้วยกิจกรรมเกมการศึกษา. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการ
สอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร.
ธีรภัทร โคตรบรรเทา และ ปิยวรรณ โคตรบรรเทา. (2568). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาวิทยา
ศาสตร์สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดกิจกรรมรูปแบบการเรียน แบบสะเต็มศึกษา.
วารสารสิทธิ์ทรรศน์,3(1), 62-73.
พัชรีย์ ซาเสน, เสนอ ภิรมจิตรผ่อง และ วิหาญ พละพร. (2562). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยโดย
การจัดการเรียนรู้แบบ MATH-3C โรงเรียนนาหว้าประชาสรรค์สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
มุกดาหาร. วารสารวิจัยและประเมินผลอุบลราชธานี, 8(2), 103-113.
รวินันท์ พอควร และ ธีรวัฒน์ มอนไธสง. (2565). การพัฒนาแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย
โดยใช้รูปแบบการ เรียนรู้แบบสตีมศึกษา (STEAM) ในสถานศึกษา สังกัดเทศบาลเมืองอ่างทอง. วารสาร
การบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น,8(5),199-212.
ราชกิจจานุเบกษา. (2562). พระราชบัญญัติการพัฒนาเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2562. เล่ม 136 ตอนที่ 56 ก. หน้า 5
วณิชชา สิทธิพล และ ประดิษฐา ภาษาประเทศ. (2568).การประเมินความต้องการจำเป็นเพื่อพัฒนาทักษะแห่ง
อนาคตของครูปฐมวัย. e-Journal of Education Studies, Burapha University,7(1),27-41.
วรรธนา นันตาเขียน กุลภัสสรณ์ ตั้งศิริวัฒนากุล และ สุกัลยา สุเฌอ.(2560). ทักษะชีวิตของเด็กปฐมวัย ในยุค
ประเทศไทย 4.0. วารสารการศึกษาและการพัฒนาสังคม,13(1), 7-18.
ศิริมงคล ทนทอง และ สันติ วิจักขณาลัญฉ์. (2567). องค์ประกอบทักษะชีวิตสำหรับเด็กปฐมวัยในยุคการ
เปลี่ยนแปลง. Journal of Roi Kaensarn Academi,9(12),570-585.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.(2562). ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2561- 2580).
(พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
