ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกากับเสถียรภาพในอินโด-แปซิฟิก จากมุมมอง “ระบบระเบียบโลกเสรี (Liberal World Order)
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้จะวิเคราะห์ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐอเมริกาในบริบทความมั่นคงของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ผ่านทฤษฎีเสรีนิยมคลาสสิกของคานท์ภายใต้แนวคิดเรื่อง “ระบบระเบียบโลกเสรี” ซึ่งมองว่าประชาธิปไตย ทุนนิยมเสรี และสถาบันระหว่างประเทศเป็นปัจจัยสำคัญต่อเสถียรภาพในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเสนอว่าการก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจของจีนที่ผ่านมาและในอนาคตจะเป็นการเปลี่ยนผ่านทางอำนาจอย่างสันติ เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกามีกลไกทั้งสามประการตามแนวคิด “ระบบระเบียบโลกเสรี” มีส่วนยับยั้งไม่ให้มหาอำนาจทั้งสองต้องเผชิญหน้ากันจนลุกลามบานปลายกลายเป็นสงครามขนาดใหญ่ในอนาคต ดังนั้น ในการกำหนดยุทธศาสตร์และนโยบายความมั่นคงของไทยควรจะพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจทั้งสองเป็นปัจจัยในเรื่องสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศด้วย
Downloads
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความในวารสารนี้อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
ท่านสามารถอ่านและใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา และทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัย หรือการอ้างอิง โดยต้องให้เครดิตอย่างเหมาะสมแก่ผู้เขียนและวารสาร
ห้ามใช้หรือแก้ไขบทความโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อความที่ปรากฏในบทความเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น
ผู้เขียนเป็นผู้รับผิดชอบต่อเนื้อหาและความถูกต้องของบทความของตนอย่างเต็มที่
การนำบทความไปเผยแพร่ซ้ำในรูปแบบสาธารณะอื่นใด ต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร
เอกสารอ้างอิง
๑ John J. Mearsheimer, The Tragedy of Great Power Politics (New York: W.W. Norton
& Company, 2014)
๒ Robert Gilpin, War and Change in World Politics (Cambridge: Cambridge University
Press, 1981)
๓ John J. Mearsheimer, The Tragedy of Great Power Politics, pp. 29-32.
๔ Ibid., pp. 30-32.
๕ Graham Allison,DestinedFor War: Can America and China Escape Thucydides’s
Trap (Boston: HoughtonMifflin Harcourt, 2017)
๖ John J. Mearsheimer, “Structural Realism,” in International Relations Theories,
nd ed., edited by Tim Dunne,Milja Kurki and Steve Smith (Oxford: Oxford
UniversityPress, 2010), pp. 89-90.
๗ Aaron L. Friedberg, A Contest for Supremacy: China, America, and the Struggle
for Mastery in Asia (New York: W.W. Norton & Company, 2011)
๘ ขจรศักดิ์ สิทธิ, “แนวคิดทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกระแสหลัก,” ใน เอกสารการสอน
ชุดวิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (นนทบุรี: สำ�นักพิมพ์ มสธ., ๒๕๕๕), หน่วยที่ ๓ หน้า ๑๗.
๙ Immanuel Kant, “Toward Perpetual Peace: A Philosophical Sketch,” in Toward
Perpetual Peace and Other Writings on Politics, Peace, and History, edited
and with an introduction by Pauline Kleingeld; translated by David
L. Colclasure (New Haven: Yale University Press, 2006), pp. 72-73.
๑๐ JohnLocke, Two Treatises of Government and A Letter Concerning Toleration,
edited and with an introduction by Ian Shapiro (New Haven: Yale University
Press, 2003)
๑๑ Adam Smith, An Inquiry into the Nature and Causes of the Wealth of Nations,
with a foreword by George Osborne and an introduction by Jonathan B. Wright
(Hampshire: Harriman House, 2007)
๑๒ Ibid., pp. 74-75.
๑๓ Ibid., p. 78.
๑๔ Ibid., p. 80.
๑๕ Ibid., pp. 84-85.
๑๖ Robert O. Keohane and Joseph S. Nye, Jr., Power and Interdependence: World
politics in Transition, 2nd ed. (Glenview: Harper Collins Publishers, 1989)
๑๗ Bruce Russett, “Liberalism,” in International Relations Theories, 4th ed., edited
by Tim Dunne, Milja Kurki and Steve Smith (Oxford: Oxford University Press,
, p. 69.
๑๘ Ibid., p. 80.
๑๙ G. John Ikenberry, “A New Order of Things?: China, America, and the Struggle
over World Power,” in Will China’s Rise Be Peaceful?: Security, Stability, and
Legitimacy, edited by Asle Toje (Oxford: Oxford University Press,2018), p. 36
๒๐ Ibid., pp. 41-43.
