เคลาเซวิทซ์ในฐานะนักคิดสัจนิยมกับปฏิบัติการที่มีรากฐานมาจากสภาวะที่ต้องการ
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้ให้เห็นว่าปฏิบัติการที่มีรากฐานมาจากสภาวะที่ต้องการหรือ “อีบีโอ” (effects-based operations หรือ EBO) ซึ่งรวมการวางแผนและการอำนวยการยุทธ์เอาไว้ด้วยกันมีที่มาจากปรัชญาสัจนิยม โดยมีคาร์ล ฟอน เคลาเซวิทซ์ (Carl von Clausewitz) เป็นตัวแทนของหนึ่งในนักคิดสัจนิยมที่เน้นเรื่องของสงครามเป็นหลัก ประเด็นหลักของบทความคือปรัชญาสัจนิยมของเคลาเซวิทซ์แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของสงครามที่มีความหลากหลายซึ่งสอดคล้องกับอีบีโอซึ่งเป็นการทำความเข้าใจเชิงระบบ (systemic approach) ต่อสิ่งท้าทายทางความมั่นคง ขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมโยงอยู่กับความจริงที่ว่าสงครามเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายของรัฐโดยที่รัฐมีวิธีการใช้สงครามได้อย่างหลากหลาย
Downloads
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความในวารสารนี้อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
ท่านสามารถอ่านและใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา และทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัย หรือการอ้างอิง โดยต้องให้เครดิตอย่างเหมาะสมแก่ผู้เขียนและวารสาร
ห้ามใช้หรือแก้ไขบทความโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อความที่ปรากฏในบทความเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น
ผู้เขียนเป็นผู้รับผิดชอบต่อเนื้อหาและความถูกต้องของบทความของตนอย่างเต็มที่
การนำบทความไปเผยแพร่ซ้ำในรูปแบบสาธารณะอื่นใด ต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร
เอกสารอ้างอิง
Sun-tzu, The Art of War, translated and with an introduction by Samuel B. Griffith; with a foreword by B. H. Liddell Hart (New York: Oxford University Press, 1973); Carl von Clausewitz, On War, edited and translated by Michael Howard and Peter Paret (Princeton, NJ: Princeton University Press, 1984)
ในบทความนี้ขอแปล effects-based operations (EBO) ว่าเป็น “ปฏิบัติการที่มีรากฐานมาจากสภาวะที่ต้องการ (อีบีโอ)” โดยตลอดบทความจะใช้ตัวย่อเป็นภาษาไทยว่า “อีบีโอ”
Charles M. Kyle, “RMA to ONA: The Saga of an Effects-Based Operation,” U.S. Army School of Advanced Military Studies, 2008. [Online] http://www.dtic.mil/cgi-bin/GetTRDoc?Location=U2&doc= GetTRDoc.pdf&AD=ADA499725.
Transcript of the proceedings of the Gulf War Air Campaign Tenth Anniversary Retrospective, 17 January 2001.
John A. Warden III, The Air Campaign: Planning for Combat (Washington, DC: National Defense University Press, 1988), p. 3-12.
David A. Deptula, “Effects-Based Operations: Change in the Nature of Warfare,” (Arlington, VA: Aerospace Education Foundation, 2001), p. 3.
แนวความคิดเรื่อง “การทำสงครามคู่ขนาน (parallel warfare)” สร้างขึ้นโดยคณะกรรมการพัฒนาแนวความคิดในการทำสงครามของกองทัพอากาศ (Air Force Directorate of Warfighting Concepts Development) และเริ่มใช้ทันทีหลังจากสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่หนึ่ง
ในการศึกษาการเมืองระหว่างประเทศ สัจนิยมเป็นทฤษฎีพื้นฐานที่ผู้ศึกษาทุกคนต้องเข้าใจเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของสาขาวิชานี้ สัจนิยมมีพัฒนาการมาจนถึงปัจจุบันซึ่งแตกออกเป็นสัจนิยมใหม่ สัจนิยมใหม่เชิงรุก เป็นต้น ผู้สนใจสามารถศึกษาได้ในงานรวมเล่มสัจนิยม Realism Reader, edited by Colin Elman and Michael A. Jensen (London: Routledge, 2014)
Robert O. Keohane, “Theory of World Politics: Structural Realism and Beyond,” in Neorealism and Its Critics. (New York: Columbia University Press, 1986), pp. 164-165.
Kenneth N. Waltz, Theory of International Politics (London: Addison-Wesley Publishing Company, 1979)
John J. Mearsheimer, The Tragedy of Great Power Politics (New York: W.W. Norton & Company, 2001)
Carl von Clausewitz, On War, edited and translated by Michael Howard and Peter Paret (Princeton, NJ: Princeton University Press, 1989), p. 605.
Ibid., p. 75.
นโยบายทางการเมืองในสงครามจำกัดไม่ถึงการยึดครองประเทศข้าศึกและทำลายอธิปไตยให้หมดสิ้น เช่น สงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่ ๑ ในปี ค.ศ.๑๙๙๑ ที่ฝ่ายพันธมิตรต้องการขับไล่ทหารอิรักให้ออกไปจากคูเวตเท่านั้น ไม่ถึงกับยึดครองอิรักและโค่นล้มระบอบซัดดัมลง
นโยบายทางการเมืองในสงครามไม่จำกัดไปถึงการยึดครองประเทศข้าศึกและทำลายอธิปไตยให้หมดสิ้น เช่น สงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่ ๒ ที่สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรต้องการยึดครองอิรักและเปลี่ยนระบอบการปกครองของอิรักให้เป็นประชาธิปไตย
Carl von Clausewitz, On War, p. 92.
Carl von Clausewitz, On War, p. 87.
David A. Deptula, “Effects-Based Operations: Change in the Nature of Warfare,” p. 28.
Carl von Clausewitz, On War, p. 75.
David A. Deptula, “Effects-Based Operations: Change in the Nature of Warfare,” p. 11.
Roger A. Freeman, Mighty Eighth War Diary (London: Jane's Publishing Co., 1981), pp. 9-161. ระหว่างวันที่ ๑๗ สิงหาคม ค.ศ.๑๙๔๒ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของการโจมตีทิ้งระเบิดต่อเป้าหมายของญี่ปุ่น ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ค.ศ.๑๙๔๓ กองทัพอากาศมีเที่ยวบินโจมตีทิ้งระเบิดรวม ๑๗๑ เที่ยว หากลบจำนวนภารกิจทิ้งใบปลิวและนับจำนวนเป้าหมายที่ทำลายได้หลายเป้าหมายในเที่ยวบินเดียวแล้ว ผลจะเป็นการบินโจมตีจำนวน ๑๒๔ เที่ยวบินโจมตี จำนวนนี้รวมภารกิจของกองทัพอากาศที่ ๘ ทั้งหมดซึ่งบินไปยังสมรภูมิการรบในยุโรปด้วย ไม่ใช่เที่ยวบินที่เข้าไปโจมตีเยอรมนีเท่านั้น
จากการทบทวนรายงานการรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามโลกครั้งที่สอง สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม และสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี ค.ศ.๑๙๖๗ และในปี ค.ศ.๑๙๗๓
“บรรดาผู้ที่เป็นสาวกของเคลาเซวิทซ์หลายคนไม่ได้ศึกษางานของเคลาเซวิทซ์อย่างลึกซึ้งพอและง่ายที่จะสับสนเครื่องมือหรือวิธีการ [ของสงคราม] กับเป้าหมายในการทำสงคราม และกระโจนไปสู่ข้อสรุปที่ว่าการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ทั้งหมดในการทำสงครามควรจะอยู่ภายใต้เป้าหมายของการรบแบบแตกหัก (decisive battle)” B. H. Liddell Hart, Strategy (New York: Meridian, 1991), p. 319. ในขณะที่นักวิชาการหลายคนมองลิดเดล ฮาร์ตว่าตีความเคลาเซวิทซ์แบบมองในแง่เดียว แต่ข้อความที่ยกมานี้ก็ถือเป็นความคิดที่นายทหารยุคใหม่ในหลายประเทศเข้าใจว่าสาระสำคัญของ On War เป็นดังนี้
Thomas G. Mahnken, “Strategic Theory,” in Strategy in the Contemporary World, 4th ed. edited by John Baylis, James J. Wirtz and Colin S. Gray (Oxford: Oxford University Press, 2013), p. 68.