เคลาเซวิทซ์ในฐานะนักคิดสัจนิยมกับปฏิบัติการที่มีรากฐานมาจากสภาวะที่ต้องการ

Main Article Content

น.อ.ดร.หัสไชยญ์ มั่งคั่ง

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชี้ให้เห็นว่าปฏิบัติการที่มีรากฐานมาจากสภาวะที่ต้องการหรือ “อีบีโอ” (effects-based operations หรือ EBO) ซึ่งรวมการวางแผนและการอำนวยการยุทธ์เอาไว้ด้วยกันมีที่มาจากปรัชญาสัจนิยม โดยมีคาร์ล ฟอน เคลาเซวิทซ์ (Carl von Clausewitz) เป็นตัวแทนของหนึ่งในนักคิดสัจนิยมที่เน้นเรื่องของสงครามเป็นหลัก ประเด็นหลักของบทความคือปรัชญาสัจนิยมของเคลาเซวิทซ์แสดงให้เห็นถึงธรรมชาติของสงครามที่มีความหลากหลายซึ่งสอดคล้องกับอีบีโอซึ่งเป็นการทำความเข้าใจเชิงระบบ (systemic approach) ต่อสิ่งท้าทายทางความมั่นคง ขณะเดียวกันก็ยังเชื่อมโยงอยู่กับความจริงที่ว่าสงครามเป็นเครื่องมือในการดำเนินนโยบายของรัฐโดยที่รัฐมีวิธีการใช้สงครามได้อย่างหลากหลาย

Downloads

Download data is not yet available.

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
มั่งคั่ง ห. . (2025). เคลาเซวิทซ์ในฐานะนักคิดสัจนิยมกับปฏิบัติการที่มีรากฐานมาจากสภาวะที่ต้องการ . นาวิกาธิปัตย์สาร, 44(2), 12–26. สืบค้น จาก https://so16.tci-thaijo.org/index.php/nssc_journal/article/view/3142
ประเภทบทความ
บทความวิชาการ

เอกสารอ้างอิง

Sun-tzu, The Art of War, translated and with an introduction by Samuel B. Griffith; with a foreword by B. H. Liddell Hart (New York: Oxford University Press, 1973); Carl von Clausewitz, On War, edited and translated by Michael Howard and Peter Paret (Princeton, NJ: Princeton University Press, 1984)

ในบทความนี้ขอแปล effects-based operations (EBO) ว่าเป็น “ปฏิบัติการที่มีรากฐานมาจากสภาวะที่ต้องการ (อีบีโอ)” โดยตลอดบทความจะใช้ตัวย่อเป็นภาษาไทยว่า “อีบีโอ”

Charles M. Kyle, “RMA to ONA: The Saga of an Effects-Based Operation,” U.S. Army School of Advanced Military Studies, 2008. [Online] http://www.dtic.mil/cgi-bin/GetTRDoc?Location=U2&doc= GetTRDoc.pdf&AD=ADA499725.

Transcript of the proceedings of the Gulf War Air Campaign Tenth Anniversary Retrospective, 17 January 2001.

John A. Warden III, The Air Campaign: Planning for Combat (Washington, DC: National Defense University Press, 1988), p. 3-12.

David A. Deptula, “Effects-Based Operations: Change in the Nature of Warfare,” (Arlington, VA: Aerospace Education Foundation, 2001), p. 3.

แนวความคิดเรื่อง “การทำสงครามคู่ขนาน (parallel warfare)” สร้างขึ้นโดยคณะกรรมการพัฒนาแนวความคิดในการทำสงครามของกองทัพอากาศ (Air Force Directorate of Warfighting Concepts Development) และเริ่มใช้ทันทีหลังจากสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่หนึ่ง

ในการศึกษาการเมืองระหว่างประเทศ สัจนิยมเป็นทฤษฎีพื้นฐานที่ผู้ศึกษาทุกคนต้องเข้าใจเพราะเป็นจุดเริ่มต้นของสาขาวิชานี้ สัจนิยมมีพัฒนาการมาจนถึงปัจจุบันซึ่งแตกออกเป็นสัจนิยมใหม่ สัจนิยมใหม่เชิงรุก เป็นต้น ผู้สนใจสามารถศึกษาได้ในงานรวมเล่มสัจนิยม Realism Reader, edited by Colin Elman and Michael A. Jensen (London: Routledge, 2014)

Robert O. Keohane, “Theory of World Politics: Structural Realism and Beyond,” in Neorealism and Its Critics. (New York: Columbia University Press, 1986), pp. 164-165.

Kenneth N. Waltz, Theory of International Politics (London: Addison-Wesley Publishing Company, 1979)

John J. Mearsheimer, The Tragedy of Great Power Politics (New York: W.W. Norton & Company, 2001)

Carl von Clausewitz, On War, edited and translated by Michael Howard and Peter Paret (Princeton, NJ: Princeton University Press, 1989), p. 605.

Ibid., p. 75.

นโยบายทางการเมืองในสงครามจำกัดไม่ถึงการยึดครองประเทศข้าศึกและทำลายอธิปไตยให้หมดสิ้น เช่น สงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่ ๑ ในปี ค.ศ.๑๙๙๑ ที่ฝ่ายพันธมิตรต้องการขับไล่ทหารอิรักให้ออกไปจากคูเวตเท่านั้น ไม่ถึงกับยึดครองอิรักและโค่นล้มระบอบซัดดัมลง

นโยบายทางการเมืองในสงครามไม่จำกัดไปถึงการยึดครองประเทศข้าศึกและทำลายอธิปไตยให้หมดสิ้น เช่น สงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งที่ ๒ ที่สหรัฐอเมริกาและพันธมิตรต้องการยึดครองอิรักและเปลี่ยนระบอบการปกครองของอิรักให้เป็นประชาธิปไตย

Carl von Clausewitz, On War, p. 92.

Carl von Clausewitz, On War, p. 87.

David A. Deptula, “Effects-Based Operations: Change in the Nature of Warfare,” p. 28.

Carl von Clausewitz, On War, p. 75.

David A. Deptula, “Effects-Based Operations: Change in the Nature of Warfare,” p. 11.

Roger A. Freeman, Mighty Eighth War Diary (London: Jane's Publishing Co., 1981), pp. 9-161. ระหว่างวันที่ ๑๗ สิงหาคม ค.ศ.๑๙๔๒ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นของการโจมตีทิ้งระเบิดต่อเป้าหมายของญี่ปุ่น ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ค.ศ.๑๙๔๓ กองทัพอากาศมีเที่ยวบินโจมตีทิ้งระเบิดรวม ๑๗๑ เที่ยว หากลบจำนวนภารกิจทิ้งใบปลิวและนับจำนวนเป้าหมายที่ทำลายได้หลายเป้าหมายในเที่ยวบินเดียวแล้ว ผลจะเป็นการบินโจมตีจำนวน ๑๒๔ เที่ยวบินโจมตี จำนวนนี้รวมภารกิจของกองทัพอากาศที่ ๘ ทั้งหมดซึ่งบินไปยังสมรภูมิการรบในยุโรปด้วย ไม่ใช่เที่ยวบินที่เข้าไปโจมตีเยอรมนีเท่านั้น

จากการทบทวนรายงานการรบในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง สงครามโลกครั้งที่สอง สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม และสงครามอาหรับ-อิสราเอลในปี ค.ศ.๑๙๖๗ และในปี ค.ศ.๑๙๗๓

“บรรดาผู้ที่เป็นสาวกของเคลาเซวิทซ์หลายคนไม่ได้ศึกษางานของเคลาเซวิทซ์อย่างลึกซึ้งพอและง่ายที่จะสับสนเครื่องมือหรือวิธีการ [ของสงคราม] กับเป้าหมายในการทำสงคราม และกระโจนไปสู่ข้อสรุปที่ว่าการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ทั้งหมดในการทำสงครามควรจะอยู่ภายใต้เป้าหมายของการรบแบบแตกหัก (decisive battle)” B. H. Liddell Hart, Strategy (New York: Meridian, 1991), p. 319. ในขณะที่นักวิชาการหลายคนมองลิดเดล ฮาร์ตว่าตีความเคลาเซวิทซ์แบบมองในแง่เดียว แต่ข้อความที่ยกมานี้ก็ถือเป็นความคิดที่นายทหารยุคใหม่ในหลายประเทศเข้าใจว่าสาระสำคัญของ On War เป็นดังนี้

Thomas G. Mahnken, “Strategic Theory,” in Strategy in the Contemporary World, 4th ed. edited by John Baylis, James J. Wirtz and Colin S. Gray (Oxford: Oxford University Press, 2013), p. 68.