ในยุคของการจัดระเบียบโลกใหม่ : ไทยควรกำหนดแนวคิดในการรักษาผลประโยชน์ของชาติอย่างไร
Main Article Content
บทคัดย่อ
ความเป็นไปในโลกยุคปัจจุบัน และอนาคต มีความผิดแผกจากที่เคยเป็นมาอย่างมากมายหลายลักษณะ อาทิ มีความผันผวนปรวนแปรอย่างรวดเร็ว ในรูปแบบที่ยากแก่การพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำด้วยหลักวิชาการ ใด ๆ ปัญหาสำคัญต่าง ๆ มักมีความไม่แน่นอน ซับซ้อน และคลุมเครือสูง โดยเฉพาะเรื่องที่มีผลกระทบเป็นวงกว้างต่อผู้คนทั่วโลกคือความขัดแย้งระหว่างชาติมหาอำนาจ ซึ่งสหรัฐอเมริกาเริ่มมีบทบาทนำภายหลังการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ ๒ แทนที่อังกฤษเจ้าอาณานิคมในอดีต ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชาติอื่น ๆ ที่เข้าร่วมสงครามได้สูญเสียทรัพยากรไปมากมายในการต่อสู้กับฝ่ายตรงข้าม สหรัฐอเมริกาเข้ามาในช่วงปลายสงครามจึงบอบช้ำไม่มากนัก กลายเป็นเจ้าหนี้หลายชาติในฝ่ายสัมพันธมิตรด้วยกัน และเป็นมหาอำนาจที่โดดเด่นเคียงข้างกับสหภาพโซเวียต
ซึ่งอยู่ฝ่ายเดียวกันในสงครามครั้งนั้น ด้วยอุดมการณ์ที่ต่างกันจึงจ้องจะโค่นล้มกันโดยการสร้างความเข้มแข็งทางทหาร แข่งขันกันสะสมอาวุธนิวเคลียร์อย่างล้นเหลือจนถึงขั้นที่ต้องหันหน้าเข้าเจรจาจำกัดจำนวนอาวุธมากกว่าหนึ่งครั้ง ภายใต้โครงการที่ชื่อว่า SALT (Strategic Arms Limitation Talk) ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง จนกระทั่งถึงปีค.ศ.๑๙๙๑ สหภาพโซเวียตถึงแก่การล่มสลาย รัฐบริวารต่าง ๆ แตกตัวเป็นอิสระเหลือประเทศรัสเซียซึ่งไม่เข้มแข็งพอที่จะเป็นมหาอำนาจที่เทียบเคียงกับสหรัฐอเมริกาได้อีกต่อไป ถือเป็นการสิ้นสุดของยุคสงครามเย็น สหรัฐอเมริกาจึงทำตนเป็นผู้นำโลก จัดระเบียบเรื่องต่าง ๆ เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของตน โดยเฉพาะเรื่องการค้าการลงทุนระหว่างประเทศ
Downloads
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความในวารสารนี้อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
ท่านสามารถอ่านและใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา และทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัย หรือการอ้างอิง โดยต้องให้เครดิตอย่างเหมาะสมแก่ผู้เขียนและวารสาร
ห้ามใช้หรือแก้ไขบทความโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อความที่ปรากฏในบทความเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น
ผู้เขียนเป็นผู้รับผิดชอบต่อเนื้อหาและความถูกต้องของบทความของตนอย่างเต็มที่
การนำบทความไปเผยแพร่ซ้ำในรูปแบบสาธารณะอื่นใด ต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร