การใช้แบบฝึกทักษะทางการเรียนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดมหาสารคาม

Main Article Content

จันจิรา สราธรรม

บทคัดย่อ

           ความสำคัญของปัญหาการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานจะต้องสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคมวัฒนธรรม สภาพแวดล้อม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคนของชาติให้สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์  ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/ 80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกทักษะทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดมหาสารคาม และ 3) เพื่อประเมินสมรรถนะผู้เรียนในการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เข้าใจภูมิศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดมหาสารคาม รูปแบบการวิจัย การศึกษาวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาภูมิศาสตร์ กลุ่มสาระสังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม โดยใช้แบบฝึกทักษะทางการเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดมหาสารคาม ผู้วิจัยใช้ระเบียบการวิจัยครั้งนี้ ในรูปแบบการวิจัยเชิงทดลอง
            ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 การพัฒนาแบบฝึกทักษะทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน นักเรียนมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อได้ทำแบบทดสอบหลังเรียน  มีประสิทธิภาพในระดับสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
           ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้ชุดฝึกทักษะ เมื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียน แสดงผลคะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่า     ก่อนเรียน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
           ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 การประเมินสมรรถนะของผู้เรียนทั้ง 5 ด้าน พบว่านักเรียนมีสมรรถนะโดยภาพรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม (52.41)  โดยแยกเป็นรายด้าน ด้านการใช้ทักษะชีวิต (ร้อยละ 58.62)  ด้านการสื่อสาร (ร้อยละ 51.72) ด้านการคิด (ร้อยละ 55.17) ด้านการใช้เทคโนโลยี (ร้อยละ48.28) ด้านการแก้ปัญหา (ร้อยละ 48.28


ข้อค้นพบจากการวิจัยนี้ คือ การใช้แบบฝึกทักษะทางการเรียนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ส่งผลทำให้เกิดสมรรถนะทั้ง 5 ด้าน ได้แก่ ด้านการสื่อสาร ด้านการใช้ความคิด ด้านการแก้ปัญหา ด้านการใช้ทักษะ และด้านการใช้เทคโนโลยี
           สรุปโดยย่อ การพัฒนาแบบฝึกทักษะทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ จากการทำแบบทดสอบก่อนเรียน นักเรียนมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับปานกลาง มีประสิทธิภาพในระดับสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้ชุดฝึกทักษะ เมื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังเรียน แสดงผลคะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่า ก่อนเรียน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การประเมินสมรรถนะของผู้เรียนทั้ง 5 ด้าน พบว่านักเรียนมีสมรรถนะโดยภาพรวมอยู่ในระดับดีเยี่ยม (52.41) 

Article Details

How to Cite
สราธรรม จ. (2024). การใช้แบบฝึกทักษะทางการเรียนเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภูมิศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดมหาสารคาม. Journal of Sustainable Social Development, 1(6), 19–39. สืบค้น จาก https://so16.tci-thaijo.org/index.php/J_SSD/article/view/583
บท
Articles

References

กรมวิชาการ. (2543). การจัดสาระการเรียนสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม. กรุงเทพมหานคร: องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.

คณิศร ศรีประไพ (2555). การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความภาษาไทยสำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยบูรพา.

บุญนา เกษี. (2556). รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะ ระบบสมการเชิงเส้น ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3. รายงานการวิจัย. ชลบุรี: โรงเรียนพานทองสภาชนูปถัมภ์อำเภอพานทอง.

พระอธิการมาวิน จนฺทธมฺโม (อ้วนจี), (2561). การพัฒนาชุดการสอนสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมโดยใช้พุทธวิธีการสอน เรื่อง เบญจศีลเบญจธรรม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านผึ้งวิทยาคม จังหวัดนครพนม. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนสังคมศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2548). การเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพมหานคร: เดอะมาสเตอร์กรุ๊ป แบเนจเม็นท์.

ไพบูลย์ เทวรักษ์. (2540). การวัดระดับสติปัญญา. กรุงเทพมหานคร: เอส ดี เพรสการพิมพ์

มลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2545). พัฒนาการเรียนการสอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

ศศิธร เวียงวะลัย. (2556). การจัดการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: โอเดียนสโตร์.

ศิริวรรณ วณิชวัฒนวรชัย. (2545). วิธีสอนทั่วไป. นครปฐม: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สาคร ธรรมศักดิ์. (2541). ผลการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิซึมแบบรวมมือที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการมัธยมศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร.

สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. (2543). การนิเทศเพื่อส่งเสริมระบบการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนโรงเรียน. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์กรมการศาสนา.

สุจริต เพียรชอบ. (2536). วิธีสอนภาษาไทยระดับมัธยมศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.

สุนันทา สุนทรประเสริฐ. (2543). แผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยใช้กระบวนการเรียนรู้สู่บูรณาการ. ชัยนาท: โมเดิร์นโอม.

สุพล วังสินธุ์. (2536). การจัดทำแผนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ. สารพัฒนาหลักสูตร. 114, 5-10.