การส่งเสริมความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยตามหลักพุทธธรรมของประชาชนตำบลกาญจนา อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่

Main Article Content

พระครูใบฎีกาเผด็จ สำเร็จผล
สมจิต ขอนวงศ์
สายัณห์ อินนันใจ

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนตำบลกาญจนา (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักสัปปุริสธรรม 7 กับความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน ตำบลกาญจนา และ (3) นำเสนอการส่งเสริมความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยตามหลักพุทธธรรมของประชาชน ตำบลกาญจนา อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ การศึกษานี้ใช้วิธีวิจัยแบบผสานวิธี (1) การวิจัยเชิงปริมาณ แจกแบบสอบถามแก่กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 363 คน โดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ และ การสุ่มแบบแบ่งชั้น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน และ (2) การวิจัยเชิงคุณภาพ ได้สัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 9 ราย ด้วยแบบสัมภาษณ์ ดำเนินการสัมภาษณ์ นำข้อมูลมาถอดเสียง บันทึกข้อความ จำแนกประเด็นและเรียบเรียงเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า 1) ระดับความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนตามหลักสัปปุริสธรรม 7 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และระดับความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชนทั้ง 6 ด้าน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก 2) หลักสัปปุริสธรรม 7 กับความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน โดยภาพรวมมีความสัมพันธ์เชิงบวกอยู่ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 3) การส่งเสริมความเป็นพลเมืองโดยหลักสัปปุริสธรรม พบว่า (1) ธัมมัญญุตา ควรมุ่งเน้นการคิดวิเคราะห์ และการมีส่วนร่วมของประชาชน (2) อัตตัญญุตา มุ่งเน้นให้ประชาชนเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเอง (3) อัตตัญญุตา ส่งเสริมให้ประชาชนรู้จักสิทธิในระบอบประชาธิปไตย (4) มัตตัญญุตา ส่งเสริมให้ประชาชนใช้สิทธิเสรีภาพ และทรัพยากรอย่างเหมาะสม (5) กาลัญญุตา ส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง กระตุ้นการมีส่วนร่วมทางการเมือง (6) ปริสัญญุตา ควรมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน และ (7) ปุคคลัญญุตา ควรมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายชุมชน รู้จักและเลือกผู้นำที่ดี

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
สำเร็จผล พ., ขอนวงศ์ ส., & อินนันใจ ส. (2025). การส่งเสริมความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยตามหลักพุทธธรรมของประชาชนตำบลกาญจนา อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่. Journal of Spatial Development and Policy, 3(5), 113–124. สืบค้น จาก https://so16.tci-thaijo.org/index.php/JSDP/article/view/2032
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ถวิลวดี บุรีกุล และ รัชวดี แสงมหะหมัด. (2568). ความเป็นพลเมืองในประเทศไทย. สืบค้นจาก http://thaiciviceducation.org/wp-content/uploads.

ปรีชา เรืองจันทร์. (2560). การเมือง เศรษฐกิจ และสังคม. (พิมพ์ครั้งที่ 2). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบัมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

วัลลภ รัฐฉัตรานนท์, ปิยะนันต์ จันทร์แขกหล้า และ สุเชาว์ ชยมชัย. (2561). ความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างการกล่อมเกลาทางการเมืองและความรู้เกี่ยวกับการเมืองการปกครองไทยกับวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของนิสิตนักศึกษาในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. วารสารรัฐศาสตร์ปริทรรศน์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 5(1), 165-186.

วัลลภัช สุขสวัสดิ์. (2561). การวิจัยเชิงปริมาณทางรัฐศาสตร์. (พิมพ์ครั้งที่ 2). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.

ศรัณย์กร สังข์สิงห์. (2567). การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยของเยาวชนในจังหวัดนครปฐม. (รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).

ศิริพร สีเทา. (2564). การส่งเสริมการกล่อมเกลาทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยของตำรวจภูธรจังหวัดแพร่. (รัฐศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย).

ศุภณัฐ เพิ่มพูนวิวัฒน์. (2558). การสร้างสำนึกพลเมือง. กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.

สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2561). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. (พิมพ์ครั้งที่ 33). กรุงเทพฯ: ผลิธัมม์.

สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร. (2555). ความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ: สํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร.