การพัฒนาการวางแผนทางทหารจาก Threat Base สู่ Objective&Effect Base
Main Article Content
Downloads
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความในวารสารนี้อยู่ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์ทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ และเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)
ท่านสามารถอ่านและใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษา และทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัย หรือการอ้างอิง โดยต้องให้เครดิตอย่างเหมาะสมแก่ผู้เขียนและวารสาร
ห้ามใช้หรือแก้ไขบทความโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อความที่ปรากฏในบทความเป็นความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น
ผู้เขียนเป็นผู้รับผิดชอบต่อเนื้อหาและความถูกต้องของบทความของตนอย่างเต็มที่
การนำบทความไปเผยแพร่ซ้ำในรูปแบบสาธารณะอื่นใด ต้องได้รับอนุญาตจากวารสาร
เอกสารอ้างอิง
๑ Lind, William S.; Nightengale, Keith; Schmitt, John F.; Sutton, Joseph W.;
Wilson, Gary I. (October 1989), “The Changing Face of War: Into the Fourth
Generation”, Marine Corps Gazette, pp. 22–26
๒ อ้างอิงจาก NAVY WARFARE PUBLICATION NAVY PLANNING (NWP 5-01) บทที่ ๑
หน้า ๑-๑
๓ นักคณิตศาสตร์ชาวฮังกาเรียน บุคคลที่ทำให้วิทยาการศึกษาสำนึก (Heuristics) เป็นหนึ่ง
ในวิธีการแก้ปัญหา (Methods of problem solving) ที่แพร่หลายในศตวรรษที่ ๒๐
๔ คือ รายละเอียดที่อธิบายภาพการปฏิบัติที่จำเป็นต้องทำทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนแปลงจากสภาวการณ์
ปัจจุบันไปสู่สภาวะที่ต้องการในในอนาคต (Joint Publication 1-02 หน้า ๑๗๕)
๕ คือ แหล่งรวมพลังอำนาจทั้งที่เป็นรูปธรรมและนามธรรม รวมถึงเสรีภาพในการปฏิบัติ
(JP 1-02 หน้า ๒๙)
๖ อ้างอิงจาก NAVY WARFARE PUBLICATION NAVY PLANNING (NWP 5-01) บทที่ ๑
หน้า ๑-๓
๗ Carl Philipp Gottfried von Clausewitz นายพลชาวปรัสเซีย ได้รับการยกย่องเป็นนักทฤษฎี
ทหารผู้ยิ่งใหญ่และบิดาแห่งวิชาการยุทธสมัยใหม่ งานเขียนที่สำคัญคือ On War ซ่งึ อธิบาย
เกี่ยวกับสงคราม ลักษณะของสงคราม และเรื่องจุดศูนย์ดุล
๘ คือ แนวความคิดที่สำคัญอย่างหนึ่ง Clausewitz ซึ่งกล่าวถึง ความไม่ชัดเจนของข่าวสาร
ในสนามรบที่ฝ่ายเราไม่อาจมองเห็นสภาพการณ์ของสนามรบในจุดที่เราไม่ได้วางเครือข่าย
ข่าวสารไว้ หรืออาจเป็นความคลุมเครือของข่าวสาร
๙ เช่นเดียวกับหมอกของสงคราม ความฝืดของสงคราม (friction of war) เป็นสิ่งที่ทำให้การรบ
จริงต่างไปจากการรบบนกระดาษ หมายรวมถึง ความเหน็ดเหนื่อยของทหาร ดินฟ้าอากาศ
ลักษณะเส้นทางเคลื่อนกำลัง ซึ่งการวางแผนทางทหารจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้