ปัจจัยที่มีอิทธิพลและแนวทางการพัฒนาความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 3
คำสำคัญ:
ปัจจัยที่มีอิทธิพล, แนวทางการพัฒนา, คความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ 2) สร้างสมการพยากรณ์ ความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ และ 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 3 จำนวน 263 คน โดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multistage Random Sampling) และสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 7 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แบบทดสอบความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ จำนวน 10 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .63 2) แบบทดสอบวัดมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .64 3) แบบวัดมี 3 ฉบับ ได้แก่ แบบวัดเจตคติต่อวิชาคณิตศาสตร์ แบบวัดคุณภาพการสอนของครูคณิตศาสตร์ แบบวัดการส่งเสริมการเรียนจากครอบครัว มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .814, .743 และ .706 ตามลำดับ และ 4) แบบสัมภาษณ์แนวทาง การพัฒนาความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ตัวแปรที่สามารถพยากรณ์ความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 คือ ความรู้พื้นฐานทางเดิมคณิตศาสตร์ (X1) และมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ (X5) โดยอธิบายความผันแปรความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ (Y) ได้ร้อยละ 51.60
2. สมการพยากรณ์ความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 3 เป็นดังนี้
สมการในรูปคะแนนดิบ Y ′ = -3.684 + .101X1 + .271X5
สมการในรูปคะแนนมาตรฐาน Z ′y = .494ZX1 + .319 ZX5
3. แนวทางการพัฒนาความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ 1) ออกแบบการเรียนการสอนที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์ในชีวิต ประจำวัน 2) สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนาน 3) ส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ 4) พัฒนาครูและใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสอน และ 5) ปรับปรุงการประเมินผลให้สะท้อนความสามารถของผู้เรียน
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
ชมนาด เชื้อสุวรรณทวี. (2542). การสอนคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
ทรงศักดิ์ ภูสีอ่อน. (2561). การประยุกต์ใช้ SPSS วิเคราะห์ข้อมูลงานวิจัย. มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.
ภาณุมาส นนทะโย. (2559). ศึกษาการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วิทยานิพนธ์ ค.ม.มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
พูลพงศ์ สุขสว่าง. (2560). โมเดลสมการโครงสร้าง Structural Equation Modeling. กรุงเทพฯ: เอ.พี.บลูปริ้นท์.
ราชบัณฑิตยสภา. (2562). ทำไมจึงต้องสร้างความฉลาดรู้ : ศึกษาจากปรากฏการณ์และทำนายอนาคต. กรุงเทพฯ: สำนักธรรมศาสตร์และการเมือง ราชบัณฑิตยสภา.
วชิรภรณ์ เทียบเพชร์. (2562). ปัจจัยที่มีอิทธิพลและแนวทางการส่งเสริมการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ในศตวรรษที่ 21 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26. วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สมหญิง บุตรวงศ์. (2565). การวิเคราะห์พหุระดับปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการรู้เรื่องคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3.วิทยานิพนธ์ ศษ.ม. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2563). PISA 2021 กับการประเมินความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์. เข้าถึงได้จาก https://pisathailand. ipst.ac.th/issue-2020-53/ 6 พฤษภาคม 2567.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2565). แนวทางการส่งเสริมความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์. เข้าถึงได้จาก https://pisathailand.ipst.ac.th/infographics-issue-2020-53/ 6 พฤษภาคม 2567.
สุธารัตน์ สมรรถการ. (2564). การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามแนวคิดรูปแบบการปรับมโนทัศน์และรูปแบบการแปลงของเลช เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับการแปลงของเลช เพื่อเสริมสร้างมโนทัศน์ทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น. วิทยานิพนธ์ ค.ม. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรเดช ขามพลา และนันทิมา นาคาพงศ์ อัศวรักษ์. (2566). ปัจจัยที่ส่งผลต่อความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สังกัดเทศบาลนครนครสวรรค์. วารสารการบริหารนิติบุคคลและนวัตกรรมท้องถิ่น, 9(8), 1109-1121.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2567). ชุดพัฒนาความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์. เข้าถึงได้จาก http://www.krukird.com/pisa.m1.pdf 6 พฤษภาคม 2567.
สำรวย หาญห้าว. (2560). ปัจจัยที่มีผลต่อเจตคติและความสามารถในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง. วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 18(1), 142-158.
อัมพร ม้าคนอง. (2557). คณิตศาสตร์สำหรับครูมัธยม. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Bloom, B. S. (1976). Taxonomy of Education Objective, Handbook I : Cognitive Domain. New York: David Mckay.
Kilpatrick, J., Swafford, J., & Findell, B. (2001). Adding It Up: Helping Children Learn Mathematics. Washington, DC:
National Academy Press.
Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD). (2009). PISA 2009 Assessment Framework-Key Competencies in Reading, Mathematics and Science. Retrieved from https:/www.oecd.org/pisalpisaproducts/44455820.pdf May 10th, 2024.
Organisation for Economic Co-operation and Development (OECD). (2016). PISA 2015 Results (Volume I): Excellence and Equity in Education. Paris: OECD Publishing.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารวิชาการหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.