วารสารสถาบันพอดี
https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J
<p><strong>Online ISSN: 3027-8023</strong></p> <p><strong>วาระการตีพิมพ์</strong></p> <p>วารสารสถาบันพอดี มีวาระการตีพิมพ์เผยแพร่ ปีละ 12 ฉบับ ได้แก่</p> <table> <tbody> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 1 ประจำเดือนมกราคม</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 2 ประจำเดือนกุมภาพันธ์</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 3 ประจำเดือนมีนาคม</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 4 ประจำเดือนเมษายน</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 5 ประจำเดือนพฤษภาคม</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 6 ประจำเดือนมิถุนายน</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 7 ประจำเดือนกรกฎาคม</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 8 ประจำเดือนสิงหาคม</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 9 ประจำเดือนกันยายน</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 10 ประจำเดือนตุลาคม</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 11 ประจำเดือนพฤศจิกายน</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 12 ประจำเดือนธันวาคม</p> </td> </tr> </tbody> </table> <p> </p> <p><strong>ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์</strong></p> <p>วารสารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบทความวิจัยและบทความวิชาการ จำนวน 3,000 บาท(สามพันบาทถ้วน) ต่อ 1 บทความ <br />โดยมีรายละเอียด ดังนี้<br />1. ค่าธรรมเนียมการตรวจประเมินคุณภาพบทความ จำนวน 1,500.- บาท<br />2. ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์บทความ จำนวน 1,500.- บาท<br />กรุณาชำระค่าธรรมเนียม หลังจากวารสารได้พิจารณาความถูกต้องและเหมาะสมให้กับบทความของท่านแล้วและเห็นว่าบทความของท่านสมควรนำส่งเข้าสู่ระบบเพื่อให้ผู้ทรงคุณวุฒิได้ตรวจพิจารณาบทความของท่านต่อไป<br />***หมายเหตุ*** วารสารไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมให้กับผู้นิพนธ์ทุกกรณี</p> <p>หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามสามารถติดต่อบรรณาธิการได้ตามช่องทางติดต่อนี้</p> <p><strong>Phone:</strong> 081-815-0908<br /><strong>ID Line:</strong> 0818150908</p> <p><strong>ผศ.ดร.เมธา หริมเทพาธิป (</strong><strong>บรรณาธิการวารสาร)</strong></p> <p> </p> <p> </p>
มูลนิธิสหธรรมิกชน (Sahadhammikchon Foundation) 429/129 ถนนสรงประภา แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210 โทรศัพท์ : 091-778-1032, 089-983-9333 อีเมล : shdm.foundation@gmail.com
th-TH
วารสารสถาบันพอดี
3027-8023
-
ศึกษาแนวทางการขับเคลื่อนเครือข่ายผู้นำ IDG ในประเทศไทยจากทัศนะของพระครูปลัดสุวัฒนวิสุทธิสารคุณ (พระมหามฆวินทร์ ปุริสุตฺตโม, ผศ.ดร.)
https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J/article/view/2382
<p> บทความวิชาการนี้มุ่งวิเคราะห์แนวทางการขับเคลื่อนเครือข่ายผู้นำ Inner Development Goals (IDG) ในประเทศไทย จากทัศนะของพระครูปลัดสุวัฒนวิสุทธิสารคุณ (พระมหามฆวินทร์ ปุริสุตฺตโม, ผศ.ดร.) โดยเชื่อมโยงกรอบทักษะสากลของ IDG กับหลักภาวนา 4 ในพระพุทธศาสนา ผ่านการวิเคราะห์เชิงปรัชญาและการสังเคราะห์เอกสารที่เกี่ยวข้อง ผลการวิเคราะห์ชี้ว่า การขับเคลื่อนเครือข่ายผู้นำ IDG จำเป็นต้องผสานกรอบทักษะสากลกับภูมิปัญญาพุทธ เพื่อสร้างความสมดุลด้านกาย จิตใจ ศีลธรรม และปัญญา พร้อมข้อเสนอเชิงโครงสร้าง ได้แก่ การจัดตั้งองค์กรกลาง แพลตฟอร์มความรู้ ระบบการรับรอง และกองทุนเพื่อความยั่งยืน องค์ความรู้ใหม่ที่นำเสนอคือ MAKHA Model ซึ่งประกอบด้วย Mindful Integration (การบูรณาการด้วยสติและปัญญา), Alliance Building (การสร้างพันธมิตรเครือข่าย), Knowledge-based Platform (การสร้างแพลตฟอร์มความรู้), Holistic Development (การพัฒนาอย่างองค์รวม) และ Appreciation & Accreditation (การสร้างคุณค่าและการรับรอง) โมเดลนี้มิได้เป็นเพียงเครื่องมือเชิงปฏิบัติ แต่ยังสะท้อนคุณค่าทางปรัชญา จิตวิญญาณ และสังคม ที่สามารถเป็นเข็มทิศใหม่สำหรับการพัฒนาภายในและการขับเคลื่อนเครือข่ายผู้นำ IDG ในสังคมไทยอย่างยั่งยืน</p>
ศูนย์พอเพียงศึกษา
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันพอดี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-09-30
2025-09-30
2 9
23
32
-
การศึกษาเชิงวิเคราะห์ Non-Technical Skills เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J/article/view/2375
<p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาแนวคิดและองค์ประกอบของ Non-Technical Skills (NTS) (2) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง NTS และการพัฒนาคุณภาพชีวิต และ (3) สังเคราะห์กรอบแนวคิด NTS เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยผู้วิจัยมุ่งขยายความหมายของ NTS ให้กว้างออกไปจากกรอบที่ใช้ในวิชาชีพที่มีความเสี่ยงสูงไปสู่การนิยามใหม่ในฐานะ “ทักษะชีวิต การคิด และความสัมพันธ์” เพื่อให้เป็นองค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างกว้างขวาง ระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้คือการวิจัยเชิงเอกสาร และการวิจัยเชิงปรัชญา โดยอาศัยการวิเคราะห์เชิงตีความ การเปรียบเทียบ และการไตร่ตรองสะท้อนกลับ ข้อมูลที่ศึกษาได้มาจากงานวิจัยสากลและงานวิจัยไทยที่เกี่ยวข้องกับ NTS ทั้งในด้านการแพทย์ การพยาบาล การบิน การศึกษา และการบริหารจัดการ ผลการวิจัยพบว่า (1) องค์ประกอบหลักของ NTS ที่ปรากฏซ้ำกัน ได้แก่ การตระหนักรู้สถานการณ์ การตัดสินใจ การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม ภาวะผู้นำ และการจัดการงาน (2) NTS มีความสัมพันธ์โดยตรงกับคุณภาพชีวิตใน ทุกมิติ ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยช่วยลดความเครียด เสริมสร้างสมดุลชีวิต และเพิ่มความไว้วางใจทางสังคม และ (3) ได้มีการสังเคราะห์กรอบแนวคิดใหม่ในชื่อ DINH Model ซึ่งประกอบด้วย D = Decision & Discipline (การตัดสินใจและการมีวินัยในตนเอง), I = Interpersonal Skills (ทักษะระหว่างบุคคลและความสัมพันธ์), N = Novel Thinking (การคิดเชิงสร้างสรรค์และวิจารณญาณ) และ H = Holistic Awareness (การตระหนักรู้แบบองค์รวม)</p>
ดิณห์ ศุภสมุทร
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันพอดี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-09-30
2025-09-30
2 9
1
12
-
การประยุกต์ใช้หลักการทรงงานข้อที่ 21 : ทำงานอย่างมีความสุข
https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J/article/view/2374
<p> การศึกษาครั้งนี้มุ่งวิเคราะห์การประยุกต์ใช้หลักการทรงงานข้อที่ 21 : ทำงานอย่างมีความสุข โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อวิเคราะห์หลักการทำงานอย่างมีความสุขในมิติทางปรัชญา (2) เพื่อวิเคราะห์แนวทางในการประยุกต์ใช้หลักการทรงงานข้อที่ 21 ในระดับบุคคล องค์กร และสังคม และ (3) เพื่อเสนอองค์ความรู้ใหม่จากการประยุกต์ใช้หลักการทรงงานข้อที่ 21 ในระดับบุคคล องค์กร และสังคม การวิจัยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงเอกสาร และระเบียบวิธีวิจัยเชิงปรัชญา ผ่านการวิเคราะห์เชิงพุทธปรัชญา การตีความ และการไตร่ตรองสะท้อนกลับ ผลการศึกษา พบว่า หลักการทำงานอย่างมีความสุขเป็นการผสานคุณค่าและความหมายเข้ากับการทำงาน สอดคล้องกับหลักพุทธปรัชญา และแนวคิดตะวันตก อีกทั้งสามารถประยุกต์ใช้ได้จริงในหลายระดับ ตั้งแต่บุคคล องค์กร ชุมชน ไปจนถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสังคมและโลก นอกจากนี้ยังได้องค์ความรู้ใหม่ในรูปแบบ HAPPY Model ซึ่งประกอบด้วย Harmony, Altruism, Purpose, Participation และ Yield of Well-being โดยทั้งหมดเชื่อมโยงกันเป็นกลไกที่ทำให้การทำงานนำมาซึ่งความสุข ความหมาย และคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน</p>
ชัยโรจน์ นพเฉลิมโรจน์
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันพอดี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-10-01
2025-10-01
2 9
47
56
-
การพัฒนาภาวะผู้นำด้วยวิริยะบารมี
https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J/article/view/2373
<p> การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ วิเคราะห์แนวคิดวิริยะบารมีตามหลักพระพุทธศาสนาเถรวาท โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงเอกสาร และระเบียบวิธีวิจัยเชิงปรัชญา ผ่านการวิเคราะห์เชิงพุทธปรัชญา การตีความ และการไตร่ตรองสะท้อนกลับ จากคัมภีร์พระพุทธศาสนาและงานวิชาการที่เกี่ยวข้อง ผลการวิจัยพบว่า วิริยะบารมีมีความหมายครอบคลุมทั้งมิติของความเพียร ความอดทน และการเสียสละเพื่อเป้าหมายสูงสุด โดยสัมพันธ์กับสัมมัปธาน 4 และสามารถเชื่อมโยงกับคุณลักษณะของภาวะผู้นำ ได้แก่ ความมุ่งมั่น การฟื้นคืนจากวิกฤติ การสร้างแรงบันดาลใจ และความเป็นผู้นำเชิงคุณธรรม ผลการสังเคราะห์นำไปสู่การสร้าง “VIRIYA Leadership Model” ซึ่งประกอบด้วย 5 มิติ ได้แก่ Vision (วิสัยทัศน์), Integrity (คุณธรรม), Resilience (ความอดทน), Inspiration (แรงบันดาลใจ), และ Yielding Action (การลงมือทำอย่างไม่ย่อท้อ) องค์ความรู้ใหม่นี้ชี้ให้เห็นว่า วิริยะบารมีสามารถพัฒนาเป็นกรอบแนวคิดสำหรับภาวะผู้นำร่วมสมัยที่มีรากฐานจากคุณธรรมและพลังภายใน ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์เชิงทฤษฎีในการเติมเต็มช่องว่างทางวิชาการ แต่ยังเป็นแนวทางเชิงปฏิบัติสำหรับการพัฒนาผู้นำในสังคมไทยและสังคมโลกอย่างยั่งยืน</p>
ชิสา กันยาวิริยะ
สิรินทร์ กันยาวิริยะ
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันพอดี
https://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0
2025-09-30
2025-09-30
2 9
13
22