https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J/issue/feed วารสารสถาบันพอดี 2025-07-31T00:00:00+07:00 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เมธา หริมเทพาธิป shdm.journal@gmail.com Open Journal Systems <p><strong>Online ISSN: 3027-8023</strong></p> <p><strong>วาระการตีพิมพ์</strong></p> <p>วารสารสถาบันพอดี มีวาระการตีพิมพ์เผยแพร่ ปีละ 12 ฉบับ ได้แก่</p> <table> <tbody> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 1 ประจำเดือนมกราคม</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 2 ประจำเดือนกุมภาพันธ์</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 3 ประจำเดือนมีนาคม</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 4 ประจำเดือนเมษายน</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 5 ประจำเดือนพฤษภาคม</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 6 ประจำเดือนมิถุนายน</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 7 ประจำเดือนกรกฎาคม</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 8 ประจำเดือนสิงหาคม</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 9 ประจำเดือนกันยายน</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 10 ประจำเดือนตุลาคม</p> </td> </tr> <tr> <td width="228"> <p>- ฉบับที่ 11 ประจำเดือนพฤศจิกายน</p> </td> <td width="240"> <p>- ฉบับที่ 12 ประจำเดือนธันวาคม</p> </td> </tr> </tbody> </table> <p> </p> <p><strong>ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์</strong></p> <p>วารสารจะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบทความวิจัยและบทความวิชาการ จำนวน 3,000 บาท(สามพันบาทถ้วน) ต่อ 1 บทความ <br />โดยมีรายละเอียด ดังนี้<br />1. ค่าธรรมเนียมการตรวจประเมินคุณภาพบทความ จำนวน 1,500.- บาท<br />2. ค่าธรรมเนียมการตีพิมพ์บทความ จำนวน 1,500.- บาท<br />กรุณาชำระค่าธรรมเนียม หลังจากวารสารได้พิจารณาความถูกต้องและเหมาะสมให้กับบทความของท่านแล้วและเห็นว่าบทความของท่านสมควรนำส่งเข้าสู่ระบบเพื่อให้ผู้ทรงคุณวุฒิได้ตรวจพิจารณาบทความของท่านต่อไป<br />***หมายเหตุ*** วารสารไม่คืนเงินค่าธรรมเนียมให้กับผู้นิพนธ์ทุกกรณี</p> <p>หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามสามารถติดต่อบรรณาธิการได้ตามช่องทางติดต่อนี้</p> <p><strong>Phone:</strong> 081-815-0908<br /><strong>ID Line:</strong> 0818150908</p> <p><strong>ผศ.ดร.เมธา หริมเทพาธิป (</strong><strong>บรรณาธิการวารสาร)</strong></p> <p> </p> <p> </p> https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J/article/view/2171 ภาวะผู้นำสามบุรุษแห่งสามก๊ก: การวิเคราะห์จริยธรรมและกลยุทธ์ 2025-07-24T09:06:27+07:00 เอกลักษณ์ เพ็งพรหม pengprom2527@gmail.com <p> บทความวิชาการนี้มุ่งวิเคราะห์ภาวะผู้นำของสามตัวละครสำคัญจากวรรณกรรมจีนเรื่องสามก๊ก ได้แก่ โจโฉ เล่าปี่ และซุนกวน ผ่านกรอบแนวคิดด้านจริยศาสตร์และกลยุทธ์การนำองค์กร เพื่อสังเคราะห์ความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับรูปแบบภาวะผู้นำในยุคสมัยที่แตกต่างกัน บทความนี้ใช้แนวทางการศึกษาวรรณกรรมเชิงตีความ โดยอิงจาก <em>สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน)</em> เป็นแหล่งข้อมูลหลัก ควบคู่กับการเปรียบเทียบกับแนวคิดจริยธรรมในพุทธปรัชญา ขงจื่อ และลัทธิเต๋า ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า โจโฉเป็นตัวแทนของภาวะผู้นำเชิงยุทธศาสตร์ที่มุ่งผลสัมฤทธิ์เป็นหลัก เล่าปี่สะท้อนภาวะผู้นำแห่งคุณธรรมที่เน้นความรัก ความภักดี และความเสียสละ ส่วนซุนกวนแสดงบทบาทของภาวะผู้นำที่ยืดหยุ่น รอบคอบ และรักษาสมดุลท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง บทความเสนอโมเดลแนวคิด “L.E.A.D. Model” ซึ่งประกอบด้วย Loyalty and Legitimacy (L), Execution and Efficiency (E), Adaptability and Alignment (A), และ Depth of Ethics (D) เพื่อเป็นกรอบในการทำความเข้าใจภาวะผู้นำในเชิงลึก โดยเฉพาะในยุคที่มีความผันผวนสูง ทั้งนี้ยังได้จัดทำตารางเปรียบเทียบภาวะผู้นำของทั้งสามบุคคลในมิติของกลยุทธ์ จริยธรรม และความเหมาะสมต่อบริบทของการเปลี่ยนผ่านทางสังคมและการเมือง อันสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการศึกษาภาวะผู้นำในบริบทปัจจุบันได้อย่างกว้างขวาง</p> 2025-07-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันพอดี https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J/article/view/2159 การประยุกต์ใช้หลักการทรงงานข้อที่ 19 : เศรษฐกิจพอเพียง 2025-07-24T09:19:40+07:00 ชัยโรจน์ นพเฉลิมโรจน์ win@chairoj.net <p> บทความวิชาการนี้มุ่งวิเคราะห์และสังเคราะห์แนวทางการประยุกต์ใช้หลักการทรงงานข้อที่ 19 : เศรษฐกิจพอเพียง โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงเอกสารเพื่อวิเคราะห์พระราชดำรัสและหลักการทรงงานในบริบทของโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอน ผลจากการศึกษาพบว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมิใช่เพียงแนวคิดเชิงเศรษฐศาสตร์หรือแนวทางเชิงนโยบาย หากแต่เป็น “ปรัชญาชีวิต” ที่มีความลุ่มลึกทางจริยธรรม และสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกระดับ ตั้งแต่ปัจเจก ครอบครัว ชุมชน องค์กร จนถึงระดับรัฐ ซึ่งหลักเศรษฐกิจพอเพียงมีองค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันในตัว ภายใต้เงื่อนไขของความรู้และคุณธรรม โดยสามารถตีความเชิงปรัชญาได้ทั้งในมิติของจริยศาสตร์แห่งความสัมพันธ์ มัชฌิมาปฏิปทาในพุทธปรัชญา และคุณธรรมในปรัชญาตะวันตก แนวทางการประยุกต์ใช้ที่ได้ผลจริงควรเริ่มจากการพัฒนาภายในสู่ภายนอก และบูรณาการคุณค่าพอเพียงเข้ากับระบบคิด วิถีชีวิต และนโยบายการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม บทความยังได้นำเสนอ S.A.F.E. Model เป็นองค์ความรู้ใหม่ที่สังเคราะห์ขึ้นจากการศึกษา เพื่อเป็นกรอบแนวคิดในการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างสมดุลและยั่งยืน ทั้งในมิติของจิตใจ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม</p> 2025-07-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันพอดี https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J/article/view/2158 การบริหารธุรกิจบนพื้นฐานของศีลบารมี 2025-07-24T09:19:04+07:00 สิรินทร์ กันยาวิริยะ sirin.cnt@hotmail.com ชิสา กันยาวิริยะ chisa.gu@ssru.ac.th <p> บทความวิชาการเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์แนวคิดศีลบารมีในพระพุทธศาสนาเถรวาท และประยุกต์ใช้เป็นกรอบจริยธรรมสำหรับการบริหารธุรกิจในยุคปัจจุบัน โดยมีแนวคิดหลักว่า ศีลบารมีมิใช่เพียงข้อปฏิบัติทางศาสนาในระดับปัจเจกบุคคลเท่านั้น หากแต่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นระบบคุณธรรมที่มีพลังขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืน บทความได้นำเสนอความหมายและระดับของศีลบารมีในสามระดับ คือ ศีลบารมี ศีลอุปบารมี และศีลปรมัตถบารมี พร้อมเชื่อมโยงกับแนวคิดทางการบริหารร่วมสมัย ได้แก่ ภาวะผู้นำเชิงคุณธรรม ผู้นำที่แท้จริง และผู้นำรับใช้ ผลจากการวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่า การบริหารธุรกิจที่ตั้งอยู่บนฐานของศีลบารมีมีศักยภาพในการสร้างผู้นำที่มีความมั่นคงทางจริยธรรม มีวินัยในตนเอง ซื่อสัตย์ โปร่งใส และมีเมตตาต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกองค์กร องค์ความรู้ใหม่ที่ได้จากบทความนี้ คือการสังเคราะห์กรอบแนวคิด “S.I.L.A.H. Leadership Model” ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบ 5 ประการ ได้แก่ Self-discipline, Integrity, Loving-kindness, Accountability และ Harmony โดยมีศีลบารมีเป็นศูนย์กลางในการหล่อหลอมพฤติกรรมของผู้นำในบริบทธุรกิจ บทความนี้จึงเสนอว่าการบริหารธุรกิจในยุคแห่งความเปราะบางและซับซ้อน จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูจากภายใน โดยมีศีลบารมีเป็นฐานคุณธรรมที่จะนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมายทางเศรษฐกิจควบคู่กับเป้าหมายทางจริยธรรมอย่างสมดุล</p> 2025-07-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันพอดี https://so16.tci-thaijo.org/index.php/IS-J/article/view/2157 การพัฒนาภาวะผู้นำด้วยศีลบารมี 2025-07-16T05:59:47+07:00 ชิสา กันยาวิริยะ chisa.gu@ssru.ac.th สิรินทร์ กันยาวิริยะ sirin.cnt@hotmail.com <p> บทความวิจัยนี้มุ่งวิเคราะห์และพัฒนาแนวทางการเสริมสร้างภาวะผู้นำโดยอาศัย “ศีลบารมี” (Sila Parami) ในพุทธปรัชญาเถรวาท โดยมีวัตถุประสงค์ 3 ประการ ได้แก่ 1) ศึกษาแนวคิดและความหมายของศีลบารมีในเชิงอภิปรัชญาและจริยศาสตร์พุทธ 2) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างศีลบารมีกับคุณลักษณะของภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ในสังคมร่วมสมัย และ 3) เสนอกรอบแนวคิดการพัฒนาภาวะผู้นำที่ตั้งอยู่บนรากฐานของศีลบารมี โดยใช้ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพร่วมกับการวิเคราะห์เชิงปรัชญา การวิเคราะห์เอกสาร</p> <p> ผลการวิจัยพบว่า ศีลบารมีมิใช่เพียงข้อห้ามทางศีลธรรม หากแต่เป็นโครงสร้างทางจริยธรรมที่ส่งเสริมการรู้ตน การควบคุมตน ความซื่อสัตย์ ความมั่นคงภายใน และการเป็นแบบอย่างของผู้นำอย่างยั่งยืน โดยผู้วิจัยได้นำเสนอ “โมเดล S.I.L.A.H.” ซึ่งประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ Self-awareness, Integrity, Loving restraint, Adherence to ethics และ Humble role model ที่สามารถนำไปใช้ในการฝึกอบรมภาวะผู้นำเชิงคุณธรรมทั้งในระดับบุคคล องค์กร และนโยบาย ข้อเสนอแนะจากงานวิจัยชี้ถึงการส่งเสริมหลักสูตรฝึกอบรมผู้นำด้วยศีลบารมี การประเมินภาวะผู้นำด้วยเครื่องมือเชิงจริยธรรม และการขยายผลในระดับนโยบายสาธารณะ</p> 2025-07-31T00:00:00+07:00 ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารสถาบันพอดี